บทนำ

แม้ว่าในตลาดฟอเร็กซ์เป้าหมายของเราคือการทำกำไร แต่ช่องทางในการทำกำไรก็แตกต่างกันไป ในกระบวนการเทรดฟอเร็กซ์ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือนักเทรดมืออาชีพ การค้นหากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะกับสไตล์ของตนเองเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการประสบความสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นในโลกนี้ไม่มีนักเทรดสองคนที่มีสไตล์การเทรดเหมือนกัน แม้ว่าจะปฏิบัติตามกฎเดียวกันและได้รับข้อมูลเดียวกัน ผลลัพธ์ของการเทรดก็จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก นักลงทุนฟอเร็กซ์จำเป็นต้องเข้าใจสไตล์การเทรดของตนเองเพื่อค้นหากลยุทธ์การลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น: โดยปกติหมายถึงกลยุทธ์การเทรดในกรอบเวลา 1-15 นาที เป้าหมายการทำกำไรโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 15 ถึง 50 จุด และการหยุดขาดทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของกำไร ระยะเวลาในการซื้อขายจะอยู่หลังเปิดตลาดยุโรป

สิ่งที่ควรสังเกตคือ: กลยุทธ์นี้ต้องมีการหยุดขาดทุนอย่างทันท่วงที ไม่ควรต่อต้านการซื้อขายอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาทุนให้ได้มากที่สุด ด้วยความยืดหยุ่นและสะดวกสบาย ไม่ต้องรอนานจึงเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่มีเวลาว่างและสามารถออนไลน์ได้ตลอดเวลา แต่การเทรดที่ถี่เกินไปทำให้ค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมสูง

กลยุทธ์การเทรดระยะวัน

กลยุทธ์การเทรดระยะวัน: หมายถึงการซื้อหรือขายภายในวันเดียว เนื่องจากกลยุทธ์นี้ไม่ต้องมีการถือครองข้ามคืน จึงไม่ต้องรับภาระต้นทุนข้ามคืน ช่วงการดำเนินการแนะนำให้อยู่ที่กราฟเวลา 15 นาทีถึง 4 ชั่วโมง เป้าหมายกำไรสามารถอยู่ที่ประมาณ 40-80 จุด และการหยุดขาดทุนยังคงอยู่ที่ 1/3 ของกำไร โดยเวลาเทรดยังคงอยู่หลังเปิดตลาดยุโรป

อีกเรื่องที่ควรสังเกตคือกลยุทธ์นี้ต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่สำคัญสองข้อ: สภาพคล่องและความผันผวน

กลยุทธ์การเทรดระยะสูง

กลยุทธ์การเทรดระยะสูง: หมายถึงกลยุทธ์การเทรดที่มักจะมีแนวโน้มไปในทางพื้นฐาน การถือครองจะมีระยะเวลาเป็นวันหรือหลายสัปดาห์ เนื่องจากมีระยะเวลาถือครองค่อนข้างนานมักจะมีค่าใช้จ่ายข้ามคืน เป้าหมายการทำกำไรสามารถปรับได้ตามต้องการ โดยทั่วไปคือประมาณ 300 จุด และการหยุดขาดทุนอยู่ที่ประมาณ 1/5 ของกำไร ระยะเวลาในการเทรดไม่มีข้อจำกัด

กลยุทธ์การเทรดนี้เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ รวมถึงจะเป็นพื้นฐานสำหรับการเป็นเทรดเดอร์ขั้นสูงในอนาคต

กลยุทธ์การเทรดยาว

กลยุทธ์การเทรดยาว: หมายถึงกลยุทธ์การเทรดที่มักจะมุ่งเน้นไปที่พื้นฐาน โดยระยะเวลาการเทรดอาจยาวถึงหลายเดือนหรือแม้กระทั่งปี และแน่นอนว่าจะต้องรับค่าใช้จ่ายข้ามคืน เป้าหมายการทำกำไรมีความคาดหวังสูงขึ้น และอัตราเลเวอเรจที่ใช้จะน้อยลง กลยุทธ์เช่นนี้อาจไม่จำเป็นต้องตั้งการหยุดขาดทุน แต่ในการต้านทานการผันผวนของตลาด การเทรดยาวจะต้องใช้งบประมาณที่มากขึ้นในตอนเริ่มต้น

ข้อแนะนำสุดท้าย

สุดท้ายนี้นักเทรดควรตระหนักถึง:

1. เมื่อตลาดไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้การพักผ่อน รอคอยจนกว่าตลาดจะมีการเคลื่อนไหวที่เด่นชัด ก่อนที่จะสนใจโอกาสในการซื้อ เพราะเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหว ตลาดจะไม่สามารถเกิดการผันผวนได้มากนัก ไม่ว่าคุณจะทำการเทรดระยะสั้นก็ตาม ในตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะทำกำไร และราคาจะอยู่ในช่วงที่สงบ ทำให้ยากในการซื้อขาย แม้แต่การเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็จะลดลงกลับ

2. เมื่อเกิดการขาดทุนอย่าลังเลที่จะขายออกไป นักเทรดระยะสั้นหลายคนทำให้การซื้อขายยาวขึ้นเพราะพวกเขาไม่ยอมขายเมื่อมีการขาดทุนเล็กน้อย จึงทำให้จุดขาดทุนที่เล็กเปลี่ยนไปเป็นการขาดทุนที่ใหญ่ขึ้น ในที่สุดพวกเขาก็ต้องเลือกการเทรดยาวเพื่อรอคอยให้ราคาฟื้นคืน ดังนั้นต้องลืมราคาเข้าซื้อของคุณไป และตัดสินใจตามความเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อกำหนดราคาในการขาย