ทุกคนมีวิธีการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์

ในการซื้อขาย Forex ผู้ลงทุนแต่ละคนมีวิธีการซื้อขายที่แตกต่างกัน ไม่มีวิธีการซื้อขายใดที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ วิธีการซื้อขายที่แตกต่างเหมาะกับบุคลิกที่แตกต่างกัน และต้องการทัศนคติที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ค้าสกุลเงินในระดับสากล การหาวิธีการซื้อขายที่เหมาะกับตัวเองจะทำให้ทำกำไรได้ง่ายขึ้นในกระบวนการซื้อขาย

การแบ่งประเภทของผู้ค้าในตลาด Forex

ผู้ค้าสกุลเงินจากทั่วทุกมุมโลกสามารถแบ่งออกได้เป็นสามกลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้ค้าสั้น, ผู้ค้าระยะยาว และผู้ค้าการเงินโปรแกรม โดยผู้ค้าสั้นยังสามารถแยกออกได้เป็นผู้ค้าขายระยะสั้น, ผู้ค้าระหว่างวัน และผู้ค้าช่วงคลื่น

หนึ่ง, ผู้ค้าขายระยะสั้น

ผู้ค้าขายระยะสั้นจะเข้าทำการซื้อขายมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน และการซื้อขายเหล่านั้นอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาที

ข้อดี:

1. ความเสี่ยงต่ำ: ผู้ค้าจะอยู่ในตลาดในระยะเวลาสั้นมาก ทำให้ลดโอกาสในการเผชิญกับความผันผวนที่ใหญ่โตที่ไม่คาดคิดได้มาก

2. โอกาสในการซื้อขายมาก: ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มใหญ่หรือเล็ก ผู้ค้าระยะสั้นสามารถหาช่องทางการทำกำไรที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา

สอง, ผู้ค้าระหว่างวัน

คุณสมบัติหลักของผู้ค้าระหว่างวันคือพวกเขาไม่ชอบการถือครองตำแหน่งข้ามคืน โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเข้าตลาดในช่วงต้นวันซื้อขายและออกจากตลาดก่อนสิ้นสุดวันซื้อขาย

ข้อดี:

มีสภาพจิตใจดี: ผู้ค้าระหว่างวันไม่ถือครองตำแหน่งข้ามคืน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดในช่วงเวลากลางคืน จึงสามารถรักษาสภาพจิตใจที่ดีได้

คุณสมบัติ:

มักจะให้ความสำคัญกับการประเมินสัญญาณการตลาดและสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพราะในวันซื้อขายหนึ่ง ๆ สถานการณ์จะไม่มาก และโอกาสนั้นอาจจะไม่มีอีกแล้ว

สาม, ผู้ค้าช่วงคลื่น

ปกติแล้ว ผู้ค้าช่วงคลื่นจะถือครองตำแหน่งนานกว่าหนึ่งวัน แต่จะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์

ข้อดี:

1. ประหยัดเวลา: ผู้ค้าช่วงคลื่นส่วนใหญ่มักเป็นผู้เทคนิค ดังนั้นข่าวในแต่ละวันไม่ได้มีผลกระทบมากต่อพวกเขา พวกเขาจึงไม่ต้องเสียเวลาให้ความสำคัญกับข่าวการเงิน

2. หลีกเลี่ยงอารมณ์: ผู้ค้าช่วงคลื่นจะทำการซื้อขายตามแผนการ โดยการทำตามแผนจะช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ให้น้อยที่สุด

สี่, ผู้ค้าระยะยาว

ผู้ค้าระยะยาวมีระยะเวลาที่นานที่สุดในทุกประเภท โดยการถือครองตำแหน่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน

คำหลักสำหรับการซื้อขายระยะยาวคือ "การลงทุน" พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับกำไรเล็กน้อย แต่จะใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นในที่สุด และไม่ถือว่าการขาดทุนที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง

ข้อดี:

1. ต้นทุนการซื้อขายต่ำ: โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าสเปรดจากทุกตำแหน่งในตลาด Forex ดังนั้นผู้ค้าระยะสั้นมักจะต้องจ่ายต้นทุนที่สูงสำหรับความถี่ในการซื้อขายที่สูง ในขณะที่ผู้ค้าระยะยาวกลับไม่ต้อง

2. ผลตอบแทนที่น่าพอใจ: ผู้ค้าระยะยาวสามารถเพลิดเพลินกับข้อได้เปรียบจากการเติบโตแบบทบต้น และผลตอบแทนในระยะยาวนั้นถือว่าทำได้ดีมาก

ห้า, ผู้ค้าการเงินโปรแกรม

ผู้ค้าการเงินโปรแกรมคือกลุ่มที่มีความชำนาญในการใช้ "เครื่องมือ" ในการซื้อขาย

สำหรับพวกเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกชุดระบบเทรดอัจฉริยะที่เหมาะสม ซึ่งระบบนี้จะทำการตัดสินใจในการซื้อขายโดยอัตโนมัติตามข้อกำหนดและอัลกอริธึมที่ตั้งไว้ ไม่ต้องการการตัดสินใจจากผู้ค้า

ข้อดี:

1. ความยืดหยุ่นในการซื้อขาย: ผู้ค้าการเงินโปรแกรมไม่ต้องพึ่งพาระยะเวลาเฉพาะใด ๆ พวกเขาสามารถทำให้ระบบการซื้อขายเป็นทางการ เพื่อใช้ในการซื้อขายคู่เงินใด ๆ

2. เวลาในการทำงานอย่างอิสระ: ผู้ค้าการเงินโปรแกรมจำนวนมากจะใช้ระบบการซื้อขายอัจฉริยะ (เช่น EA) ในการช่วยดำเนินการซื้อขาย โดยไม่ต้องลงมือเอง ทำให้พวกเขามีเวลาในการทำกิจกรรมที่สนใจได้

ข้อเสนอแนะ

การลงทุนในตลาดการเงินมีความเสี่ยงเสมอ บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการซื้อขายในตลาด Forex ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน