วิธีการควบคุมตำแหน่งแบบพีระมิด

วิธีการควบคุมตำแหน่งแบบพีระมิดคือการเริ่มต้นเข้าตลาดด้วยเงินทุนในปริมาณที่ค่อนข้างมาก หากราคาตลาดวิ่งไปในทิศทางกลับกันจะไม่เพิ่มตำแหน่งอีก แต่ถ้าทิศทางเดินไปในทางเดียวกัน ก็เพิ่มตำแหน่งแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอัตราส่วนในการเพิ่มตำแหน่งจะลดลงเรื่อย ๆ การควบคุมตำแหน่งจึงมีลักษณะเป็นปกด้านล่างใหญ่ และบนเล็ก ดังนั้นจึงเรียกว่าวิธีการควบคุมตำแหน่งแบบพีระมิด ข้อดีคือสามารถควบคุมตำแหน่งตามอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น ในขณะที่อัตราการชนะสูง ใช้ตำแหน่งที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามข้อเสียคือในตลาดที่มีความผันผวน การทำกำไรอาจทำได้ยาก

วิธีการควบคุมตำแหน่งแบบกรวย

วิธีการควบคุมตำแหน่งแบบกรวยคือการเข้าตลาดด้วยเงินทุนในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย โดยมีตำแหน่งที่เบา หากราคาตลาดวิ่งไปในทิศทางกลับกัน จะค่อยๆ เพิ่มตำแหน่งเพื่อเฉลี่ยต้นทุน โดยอัตราส่วนในการเพิ่มตำแหน่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ วิธีนี้ การควบคุมตำแหน่งจะมีลักษณะเป็นความสูงที่น้อยด้านล่างและความสูงที่มากด้านบน ดังนั้น จึงมีชื่อว่าวิธีการควบคุมตำแหน่งแบบกรวย ข้อดีคือความเสี่ยงเริ่มต้นต่ำ หากไม่มีการล้มละลาย กรวยที่สูงขึ้นจะให้ผลกำไรที่มองเห็นได้ อย่างไรก็ตามข้อเสียอยู่ที่ว่าต้องอิงตามการเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคตและการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง หากการวิเคราะห์ทิศทางผิดพลาด หรือตลาดไม่สามารถเคลื่อนผ่านต้นทุนรวมได้ จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำกำไรได้

วิธีการควบคุมตำแหน่งแบบสี่เหลี่ยม

วิธีนี้คือเมื่อเริ่มต้นตั้งตำแหน่งจะเข้าตลาดด้วยเงินทุนที่ถือเป็นสัดส่วนคงที่ของทุนทั้งหมด หากราคาตลาดพัฒนาในทิศทางกลับกัน จะค่อยๆ เพิ่มตำแหน่งเพื่อลดต้นทุน โดยอัตราการเพิ่มตำแหน่งจะต้องเป็นไปตามสัดส่วนคงที่ ดังนั้นจึงเรียกว่าวิธีการควบคุมตำแหน่งแบบสี่เหลี่ยม

ข้อดีของวิธีการควบคุมตำแหน่งแบบสี่เหลี่ยมคือ ทุกครั้งที่เพิ่มตำแหน่งเพียงสัดส่วนหนึ่งต้นทุนการถือครองจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้สามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การถือครองสามารถได้รับการควบคุมอย่างดี ในกรณีที่ทิศทางตลาดและการประเมินถูกต้อง จะสามารถทำกำไรได้อย่างงดงาม

แต่ข้อเสียอยู่ที่ในช่วงเริ่มต้น ต้นทุนเฉลี่ยจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เทรดตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ราคาจะไม่สามารถผ่านจุดคุ้มทุนได้ และต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่อาจถูกล็อคไว้ การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามจะทำให้จำนวนตำแหน่งสูงขึ้น เมื่อถึงระดับที่แน่นอน จะต้องถือทั้งหมด และหากราคาขยับไปในทิศทางตรงกันข้ามเพียงเล็กน้อยจะทำให้เกิดการล้มละลาย