บทนำ

ตั้งแต่ผมเข้าสู่วงการฟอเร็กซ์ ผมได้พบกับนักลงทุนจำนวนมากจากประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากประสบการณ์ของนักลงทุนฟอเร็กซ์ ผมเห็นว่าการวิจารณ์แนวโน้มมีความสำคัญ แต่การมีเทคนิคการซื้อขายที่จำเป็นและการพัฒนาจิตใจที่ดี เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยประสบการณ์ที่จำกัดของผม เมื่อเข้าไปในการซื้อขายฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะการใช้มาร์จิ้น ทุกอย่างเริ่มด้วยเงินทุนที่เพียงพอ เวลาเพียงพอ การตัดสินใจที่ถูกต้อง การมีทักษะการซื้อขายที่สูง และจิตใจที่แข็งแกร่ง ทั้งห้าข้อเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

คำอธิบาย

เมื่อพูดถึงหนังสือและการบรรยายเกี่ยวกับการซื้อขายฟอเร็กซ์ มักจะเน้นที่การวิเคราะห์แนวโน้มมากกว่าที่จะพูดถึงเทคนิคการซื้อขายและจิตใจในการซื้อขาย ฟอเร็กซ์เป็นเพียงการซื้อลงทุนและขาย ซึ่งตามหลักคณิตศาสตร์ควรมีอัตราการชนะประมาณ 50% แต่ผลลัพธ์นั้นทุกคนรู้ดี

ปัญหาที่หนึ่ง

ปัญหาหนึ่งคือการซื้อขายที่ง่ายต่อการถูกควบคุมด้วยความโลภ ซึ่งนำไปสู่วิธีการลงทุนที่ไม่ต้องระวังความเสี่ยงที่แท้จริง กล่าวคือ นักลงทุนมักไม่เข้าใจในการควบคุมความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล

การใช้เลเวอเรจ

โดยทั่วไปแล้ว การซื้อขายมาร์จิ้นได้กำหนดว่าเป็น "ความเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปานกลาง" สำหรับการใช้เลเวอเรจ 10 เท่า แต่ในความเป็นจริง บริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นเสนอเลเวอเรจตั้งแต่ 10 ถึง 100 เท่า

การควบคุมความเสี่ยง

ประสบการณ์ส่วนตัวของผมคือการยอมรับเลเวอเรจ 100 เท่า หากสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ การซื้อขายที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นจะทำให้มีการจัดการได้มากขึ้น เช่น ถ้าคุณมีบัญชีที่ $20,000 การเข้าไปซื้อเพียงหนึ่งใบหมายความว่าคุณได้ใช้เลเวอเรจแค่ 5 เท่า

ข้อเสนอแนะในการซื้อขาย

การกำหนดขนาดตำแหน่งในการซื้อขายคือปัญหาที่พบในการลงทุนครั้งใหญ่ ซึ่งควรมีคำเตือนว่าไม่ควรกำหนดขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งหากผิดพลาดจะทำให้การลงทุนล้มเหลว

ปัญหาที่สอง

อีกปัญหาหนึ่งคือการไม่ตั้งค่า "หยุดขาดทุน" เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลง นักลงทุนหลายคนไม่อุทิศเวลาหรือพลังงานในการจัดการความเสี่ยงของพวกเขา ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินอย่างหนัก

การพัฒนาความเข้าใจตลาด

หลายคนเชื่อว่าพวกเขาสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดได้ แต่ในทางกลับกัน จิตใจของมนุษย์มีความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสารที่เป็นอันตรายซึ่งอาจแทงทะลุกระแสที่ถูกต้องได้

สรุป

การซื้อขายฟอเร็กซ์ด้วยมาร์จิ้นต้องการเงินทุนและจิตใจที่มั่นคง การเข้าถึงและการสื่อสารที่ดี การควบคุมความเสี่ยงเป็นหลักสำคัญที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ รวมถึงการใช้เวลาและการฝึกฝนทักษะในการวิเคราะห์ตลาดอย่างเท่าเทียมกัน