ข้อเข้าใจผิดที่หนึ่ง: อารมณ์ร้อนรน ไม่วิเคราะห์การซื้อขาย

สถานการณ์นี้มักเกิดขึ้นกับเพื่อนที่เพิ่งเข้าตลาดการเงิน หลังจากเข้าตลาดแล้วรู้สึกว่าถ้าไม่ทำการซื้อขายก็ไม่ได้เข้าตลาดเลย ไม่ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ พอซื้อก็ถูกล็อคไว้ พอถูกล็อคก็รีบร้อน

ข้อเข้าใจผิดที่สอง: ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน ถูกล็อคยิ่งลึก

นี่เป็นปรากฏการณ์ทั่วไปในตลาดฟอเร็กซ์ มีหลายจุดที่สามารถตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อออกจากการซื้อขาย แต่ทุกจุดมักถูกมองข้าม ผลลัพธ์คือถูกล็อคยิ่งลึกขึ้น

ข้อเข้าใจผิดที่สาม: หลงระเริงในผลกำไรเล็กน้อย

บางคนคิดว่าตนเองฉลาด เมื่อพบวิธีการทำกำไรแล้วก็ใช้ซ้ำๆ โดยไม่รู้ว่าตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และการมีทักษะแค่เล็กน้อยไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จ นี่เป็นเรื่องที่เพื่อนๆ ที่พึ่งพาการซื้อขายแบบครอสให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ข้อเข้าใจผิดที่สี่: หลบหนีจากความจริง มีความหวังลมๆ แล้งๆ

เมื่อเห็นสกุลเงินในมือของตนลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ยินยอมที่จะตั้งจุดตัดขาดทุนหรือดำเนินการตามที่จำเป็น แต่กลับไม่ยอมรับความจริงที่โหดร้าย โดยคิดว่าจุดที่ตนซื้อมาก่อนคือจุดที่สะท้อนความมั่งคั่งที่แท้จริง และหวังว่าวันหนึ่งอัตราแลกเปลี่ยนจะกลับไปที่จุดซื้อนั้น

ข้อเข้าใจผิดที่ห้า: กลัวการซื้อขาย ทำให้พลาดโอกาส

คำกล่าวที่ว่า "ถูกงูฉกครั้งหนึ่ง จะกลัวเชือกสิบปี" บางคนไม่สามารถทนต่อความล้มเหลวได้ รับเงินจากการชนะได้ แต่ไม่สามารถพลาดได้ การขาดทุนจากการซื้อขายเพียงครั้งเดียวทำให้เกิดความกลัวในการซื้อขาย มักจะไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งแม้จะเจอโอกาสที่ดีที่มักไม่กล้าลงทุน

ข้อเข้าใจผิดที่หก: คิดได้ดี แต่ทำไม่สำเร็จ

นี่เป็นสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไป ทำไมบางคนสามารถประสบความสำเร็จสูงเมื่อจำลองการซื้อขาย เพราะพวกเขาสามารถทำตามที่คิดได้ แต่ในกรณีที่ทำการซื้อขายจริง มักจะคิดได้แต่ทำไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่จะลงมือ ทำไปแล้วโอกาสนั้นพลาดไป นี่คือเหตุผลว่าทำไมในตลาดฟอเร็กซ์จึงมีประโยคที่กล่าวบ่อยที่สุดคือ "ถ้าซื้อเมื่อสักครู่ก็จะดี"