Bollinger Bands มีฟังก์ชันหลัก 4 ประการ: 1. แสดงจุดสนับสนุนและแรงกดดัน; 2. แสดงสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป; 3. แสดงแนวโน้ม; 4. มีบทบาทเป็นช่องทางการซื้อขาย. เนื่องจาก Bollinger Bands มีฟังก์ชันหลายอย่างจึงใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดาย เมื่อเข้าใจสัญญาณอย่างชัดเจนและสามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมืออาชีพ และถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้บ่อยที่สุดในตลาดการเงินระดับนานาชาติ.
ในช่วงปกติ Bollinger Bands จะถูกใช้งานเมื่อราคาของสินทรัพย์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ โดยทั่วไปจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาที่รุนแรง ทำให้ราคาอยู่ในสมดุล. วิธีการใช้งาน Bollinger Bands ในช่วงนี้นั้นง่ายมาก: 1. เมื่อราคาตัดข้ามเส้นแรงกดดันด้านบน (เส้นแรงกดดันด้านบนแบบไดนามิก, เส้นแรงกดดันสูงสุดแบบคงที่ BOLB1) เป็นสัญญาณขาย; 2. เมื่อราคาตัดข้ามเส้นสนับสนุนด้านล่าง (เส้นสนับสนุนด้านล่างแบบไดนามิก, เส้นสนับสนุนต่ำสุดแบบคงที่ BOLB4) เป็นสัญญาณซื้อ; 3. เมื่อราคาจากด้านล่างตัดข้ามเส้นกลาง (ตัดจาก BOLB4 ไปยัง BOLB3) เป็นสัญญาณเพิ่มตำแหน่ง; 4. เมื่อราคาจากด้านบนตัดข้ามเส้นกลาง (ตัดจาก BOLB1 ไปยัง BOLB2) เป็นสัญญาณขาย.
ในตลาดที่มีการขึ้นเป็นลำดับ ราคามักจะเคลื่อนที่อยู่ระหว่าง BOLB1 และ BOLB2 เป็นระยะเวลานาน เมื่อราคาขึ้นไปตัด BOLB1 และในวันถัดมาแล้วตัดลงมาที่ BOLB1 และต่อไปตัดผ่าน BOLB2 อย่างเช่นนี้จะสร้างแนวโน้มที่ชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงจากการขึ้นไปเป็นเส้นแนวระดับ จุดนี้เป็นสัญญาณขาย.
เมื่อผ่านการปรับลดหลายรอบแล้ว ราคามักจะเข้ามาอยู่ในช่วงแคบเปลี่ยนเป็นระยะเวลานาน ในเวลานี้เราจะเห็นว่าช่องทาง Bollinger Bands ทั้งด้านบนและด้านล่างมีพื้นที่เล็กน้อยมากยิ่งขึ้น เส้นแคบลงเรื่อย ๆ การเคลื่อนไหวสูงสุดและต่ำสุดมีความแตกต่างน้อยมาก ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามสถานการณ์เช่นนี้อย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีแนวโน้มที่ใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น หากราคาขึ้น Bollinger Bands จะเปิดกว้างขึ้น ทำให้เริ่มต้นของตลาดขาขึ้น.
เมื่อราคาจากระดับต่ำโยกย้ายขึ้นสู่อยู่สูง ฝ่าย Bollinger Bands จะเปิดกว้างถึงระดับสูงสุดและไม่สามารถขยายต่อไปได้ ในเวลานี้จะถือเป็นสัญญาณขาย โดยทั่วไป ราคามักจะถอยหลังลงอย่างมีนัยสำคัญหรือมีการปรับตัว. หากราคาซื้อขายที่มีการลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ Bollinger Bands ปิดกว้าง ฝั่งเหนือจาก BOLB จะเลื่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ Bollinger Bands ด้านล่างจะเลื่อนสูงขึ้น ก็จะถึงจุดสิ้นสุดของตลาดขาลง.
1. พารามิเตอร์ของ Bollinger Bands ต้องไม่ต่ำกว่า 6 โดยทั่วไปค่าเงินที่มีความเสถียรมักจะอยู่ที่ 10 และค่าที่มีความผันผวนจะอยู่ที่ประมาณ 20; 2. ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตลาดอยู่ในช่วงปกติหรือไม่ปกติ เพราะในตลาดที่ไม่ปกติไม่ควรตัดสินใจเพียงแค่ว่าถ้าตัดเหนือเป็นขาย และตัดต่ำเป็นซื้อ; 3. การหดตัวในระดับต่ำจะจับดึงได้ง่าย แต่หากเป็นระดับสูงหรือเมื่อราคาไปถึงขีดขั้นที่ต่ำลง อาจมีความผันผวนที่ใหญ่; 4. ควรใช้ Bollinger Bands ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เช่น ตัวชี้วัด KDJ เป็นต้น.
2024-11-18
เรียนรู้วิธีการเป็นนักลงทุนฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จด้วยการสร้างวินัยและความรู้ที่เหมาะสมในตลาด
การลงทุนการเทรดฟอเร็กซ์นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จวินัยในการลงทุน
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Cnatrainingtips คือเว็บไซต์ที่มุ่งแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตทันทุกการเคลื่อนไหวของตลาด
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุน เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งแบ่งปันความรู้เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนควรทำความเข้าใจก่อนการซื้อขาย**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Cnatrainingtips
ลิขสิทธิ์ © 2024 Cnatrainingtips สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดไม่มีเจตนาชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น