วิธีเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงของคุณ
ผู้เขียน:   2024-11-18   คลิ:3

ความท้าทายที่สำคัญในการเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยง

สำหรับผู้ค้าใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือการซื้อขายสินค้านั้น การเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงถือเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุด เนื่องจากอัตราส่วนเฉลี่ยของกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงที่ได้จากคำสั่งซื้อขายในช่วงเวลาหนึ่งจะเท่ากับความสามารถในการทำกำไรของผู้ค้าในช่วงเวลานั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว อารมณ์ของมนุษย์ผลักดันให้ผู้ค้าอยากให้เส้นกราฟการเงินอยู่ในสถานะที่มีกำไรสูงสุดและขาดทุนต่ำสุด การซื้อขายเพื่อให้ได้กำไรในลักษณะนี้นั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่จะยากมากที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน。 วิธีเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงของคุณ

การจัดการความเสี่ยง

ผู้ค้ามักจะสามารถเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงได้ ดังนั้นจึงเพิ่มระดับการทำกำไรโดยรวมของตน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอัตราการทำกำไรของคำสั่งซื้อหรือแนวโน้มการทำกำไร โดยการทำเช่นนี้ จะต้องมีความสามารถในการเอาชนะอารมณ์และความยากลำบากทางการเงินที่ทำให้ผู้ค้าไม่สามารถจำกัดอัตราส่วนกำไรและขาดทุน นอกจากนี้ การให้คำแนะนำในลักษณะนี้นั้นเป็นสิ่งที่ง่าย แต่การให้ความสนใจกับพฤติกรรมที่ผู้ค้าสามารถทำได้เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้จะมีความช่วยเหลือมากกว่า

แทนที่จะมองหาความเสี่ยงที่ต่ำ

ผู้ค้าควรเริ่มต้นโดยการทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ปฏิบัติตามกลยุทธ์การจัดการเงินที่ดี โดยการถือความเสี่ยงต่ำในเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสุทธิในแต่ละการซื้อขาย จะช่วยให้คุณลดความเครียดทางอารมณ์ในแต่ละวัน และเมื่อเกิดการขาดทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะทำให้คุณประสบกับการสูญเสียน้อยลง การที่ผู้ค้ารับความเสี่ยงในเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสุทธิในแต่ละการซื้อขาย จะทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาขาดทุนน้อยลงในช่วงที่มีการขาดทุน

การเข้าสู่ตลาด

สิ่งนี้จะช่วยให้การแสวงหาประเภทการซื้อขายที่มีกำไรสูง/ความเสี่ยงต่ำและกลยุทธ์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น โดยการปรับจำนวนล็อตในคำสั่งซื้อให้สอดคล้องกับความผันผวนล่าสุดและเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าสุทธิ นอกจากนี้ผู้ค้าจะมีทางเลือกมากขึ้นในการเลือกจุดเข้าซื้อ โดยไม่ต้องมองหาจุดเข้าที่สามารถสร้างกำไรขั้นต่ำ แต่สามารถปรับมาตรฐานการเข้าซื้อให้เหมาะสมเมื่อเกิดความผันผวนครั้งใหญ่ กล่าวคือ หาโอกาสที่สามารถสร้างจุดบวกได้ที่ 20% แต่มีความเสี่ยง 10 เท่า แทนที่จะแสวงหาจุดที่มีกำไร 1 เท่าของความเสี่ยงที่ 55%

การใช้ Stop Loss อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงคือ การลด Stop Loss ให้ตีกรอบมากขึ้น! หวนกลับไปดูการซื้อขายในอดีตและพิจารณาว่ามีกี่การซื้อขายที่ดีมากๆ ที่เริ่มมีการตกลงมาแบบกระทันหัน การใช้ Stop Loss อาจเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้สูง จำเป็นต้องตัดความเชื่อที่หยุดการสูญเสียให้เกิดกำไรออกไป และจดจำว่า Stop Loss มีไว้เพื่อจำกัดการขาดทุนของคุณวิธีเพิ่มอัตราส่วนกำไร-ต่อ-ความเสี่ยงของคุณ

กลยุทธ์การออกจากตลาด

สุดท้าย กลยุทธ์การออกจากตลาดมีความสำคัญและชัดเจนมาก ควรหลีกเลี่ยงการออกจากการลงทุนในระดับความเสี่ยง-ต่อ-ขาดทุนที่ต่ำ ไม่ว่าจะทำการกลับทดสอบกี่ครั้ง การเลื่อน Stop Loss ไปยังจุดที่แตกจุดก็เป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดได้เสมอ แน่นอนว่ากลยุทธ์การออกจากตลาดใดๆ ต้องอนุญาตให้ถือครองในเงื่อนไขที่ให้ผลตอบแทน-ต่อ-ความเสี่ยงสูงเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับความเข้มแข็งของแนวโน้มและระยะเวลา การเลือกจุดที่มีการผันผวนในสินค้าในช่วงหลายเดือนและหลายปีที่ผ่านมาอาจชี้ให้เห็นถึงจุดที่ควรลงทุนที่คุ้มค่า

สรุป

อย่ากลัวที่จะถูก Stop Loss เนื่องจาก Stop Loss ที่แน่น อย่ากลัวที่กำไรเล็กน้อยจะกลายเป็นการขาดทุน และอย่าด่วนหา กำไร!



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

Cnatrainingtips คือเว็บไซต์ที่มุ่งแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตทันทุกการเคลื่อนไหวของตลาด

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุน เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งแบ่งปันความรู้เท่านั้น

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนควรทำความเข้าใจก่อนการซื้อขาย**

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Cnatrainingtips

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

blog

ลิขสิทธิ์ © 2024 Cnatrainingtips สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรามุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดไม่มีเจตนาชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน