การทำกำไรจากการลงทุน หรือแม้กระทั่งการทำกำไรจำนวนมากและรวดเร็ว เป็นเป้าหมายที่นักลงทุนหลายคนใฝ่ฝัน เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ นักลงทุนจำนวนมากพยายามเร่งจังหวะการลงทุน เพิ่มความถี่ในการซื้อขาย แต่ผลลัพธ์มักจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การซื้อขายบ่อยเกินไปอาจนำไปสู่การเสียโอกาส หรือทำให้เกิดความผิดพลาด เช่น การซื้อสูงและขายต่ำ บางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย

จากประสบการณ์ของผู้เขียน การรักษาความสงบ ลดความคาดหวัง อดทนถือหุ้น และลดการซื้อขาย มักจะให้ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

“ไม่ทำอะไร” คือการทำที่ดีที่สุด

ในบางครั้ง การลงทุนในทองคำแบบ "ทองคำกระดาษ" อาจเจอกับรอบการขึ้นระยะกลาง หากมีการสร้างสถานะไว้ล่วงหน้า เราสามารถอดทนรอโดยไม่ทำอะไรเลย เช่น ในช่วงเดือนสิงหาคม 2007 ถึงมีนาคม 2008 ที่เกิดตลาดกระทิงยาวนานกว่า 6 เดือน การซื้อขายในครั้งนั้นทำกำไรได้มากกว่า 20%

“ไม่ทำอะไร” คือการทำที่ยากที่สุด

การซื้อขายถี่ๆ หรือพยายามซื้อถูกขายแพงเป็นเรื่องยาก แต่การ “ไม่ทำอะไร” กลับยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะเมื่อราคาตลาดมีความผันผวนสูง หากสามารถอดทนผ่านช่วงเวลานี้ได้ อนาคตการลงทุนจะสดใส เช่น ในเดือนมีนาคม 2008 ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น และตามมาด้วยการลดลงต่อเนื่องนานกว่า 7 เดือน

“ไม่ทำอะไร” คือการทำที่ต้องใช้ความสามารถสูงสุด

การ “ไม่ทำอะไร” ดูเหมือนไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงต้องใช้ความชำนาญและการวางแผนที่ดี

• จับจังหวะที่เหมาะสม: การถือยาวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเลือกซื้อในช่วงที่ราคาต่ำสุดอาจไม่ง่าย แต่หากยึดมั่นในหลักการลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนมักจะคุ้มค่า
• กระจายความเสี่ยง: ควรแบ่งเงินลงทุนระหว่างระยะสั้นและระยะยาว เช่น การลงทุนส่วนใหญ่ในระยะยาว และถือบางส่วนสำหรับการซื้อขายระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่น
• เลือกซื้อเมื่อราคาลง: หลีกเลี่ยงการซื้อในช่วงที่ราคาสูงและขายในช่วงที่ราคาลง

สุดท้าย การลดความคาดหวังและการเตรียมตัวสำหรับการรอคอยเป็นสิ่งสำคัญ “ไม่ทำอะไร” ไม่ได้หมายถึงการอยู่เฉยๆ แต่ต้องพร้อมที่จะขายเมื่อราคาถึงเป้าหมาย